โรคผิวหนังในฤดูฝน: รู้ทันเพื่อการดูแลสุขภาพผิว

 

 

     ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มีความชื้นสูง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังของเราอย่างมาก โรคผิวหนังหลายชนิดสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูฝน รวมถึงเชื้อราที่ผิวหนัง การระคายเคือง และอาการแพ้ต่างๆ เมื่อรู้ทันและมีวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เราสามารถปกป้องผิวหนังของเราไม่ให้เกิดปัญหาได้

 

 

โรคผิวหนังพบบ่อยในฤดูฝน

1.  เชื้อราที่ผิวหนัง

     ความชื้นในอากาศทำให้เกิดการสะสมของเชื้อรา โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ซอกขา ซอกแขน ทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง และการอักเสบ

 

 

 

 

1.1.  กลาก

     กลาก (Tinea) ถือเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราที่อยู่ในคน ในสัตว์ หรือในดิน  โดยจะมีลักษณะเป็นผื่น แดงขอบชัดเจนเป็นวง อาจคันหรือตึงร่วมด้วย โดยกลากสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น

 

• เชื้อราที่เท้า เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "โรคเท้านักกีฬา" (Athlete's foot) โดยจะทำให้ผิวหนังบริเวณ เท้ามีอาการคัน แดง บวม และแตกแพร่กระจายได้ง่าย
• เชื้อราที่ลำตัวและซอกพับ รอยแดงหรือผื่นสามารถเกิดขึ้นที่ซอกขา ซอกพับขาหนีบ ซอกแขน หรือตามบริเวณที่มีความชื้น

 

 

1.2.  เกลื้อน

     เกลื้อน (Pityriasis Versicolor) โรคผิวหนังเชื้อราในชั้นต้น เกลื้อนอาจมาด้วยวงสีขาวหรือวงสีน้ำตาลอ่อน

 

• วิธีป้องกัน ควรรักษาความสะอาดของร่างกาย รักษาผิวหนังให้แห้ง และหลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว รองเท้า เป็นต้น

 

 

​​​​​

 

2.  เชื้อราในผิวหนัง

     เชื้อราในผิวหนังมักเกิดจากความชื้นและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในฤดูฝน เชื้อราเป็นจุลินทรีย์ที่มีอยู่ ตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมและบนผิวหนังปกติ แต่เมื่อมีปัจจัยที่ช่วยให้เชื้อราเจริญเติบโต เช่น สภาพอากาศที่ชื้น อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังเชื้อราต่าง ๆ เช่น 

 

 

3.  ผื่นผิวหนังอักเสบ

     ผิวหนังอักเสบ เป็นภาวะที่ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งกระตุ้นบ้างอย่าง เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยในฤดูฝนการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีแรง หรือการสัมผัสกับน้ำฝนที่มีมลพิษ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบดังนี้

 

• อาการ ผิวหนังมีอาการแดง คัน แห้ง หรือเกิดเป็นผื่น ในช้วงที่เป็นใหม่ๆ อาจมีน้ำเหลืองซึมออกจากบริเวณที่อักเสบ
• ชนิดของผิวหนังอักเสบ เช่น ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic dermatitis) ซึ่งมักเกิดขึ้นในผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย หรือผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารระคายเคือง (Contact dermatitis) 
• การดูแลรักษา ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง ควรบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ

 

 

 

 

การดูแลผิวหนังในฤดูฝน

• ทำความสะอาดผิวหนัง ควรอาบน้ำและทำความสะอาดผิวหนังเป็นประจำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและลดความชื้นที่อาจเกิดการสะสม
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันและบำรุงผิว เช่น ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือสารกันเสีย 
• สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เลือกใช้เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยลดความชื้นที่ผิวหนัง
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสตามที่มีเชื้อรา ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า ในพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือการเดินย้ำดินด้วยเท้าเปล่า
• พบแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน หากมีอาการผิวหนังที่ผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

 

 

---

แม้ฤดูฝนอาจนำมาซึ่งโรคผิวหนังต่าง ๆ แต่การดูแลสุขภาพผิวหนังอย่างถูกต้องช่วยป้องกันและลดเสี่ยงได้ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีผิวหนังที่สวยงาม

---

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
 แผนกผิวหนัง ชั้น 1 โรงพยาบาลรามคำแหง 2
Email: information@ram2-hosp.com
Line Official: @ram2
โทร: Tel: 02-032-3888, 095-771-9739

 

---

บทความโดย

 

พญ.นรมน เจริญพิพัฒน์สิน
แพทย์เฉพาะทางตจวิทยา
โรงพยาบาลรามคำแหง 2

 

 

 

---

 

แพ็กเกจที่แนะนำ

 

 

 

---