เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
หนึ่งในความเสื่อมที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้นและเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของภาวะสายตาเลือนรางและตาบอดทั่วโลก คือภาวะต้อกระจก และมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่มาพบจักษุแพทย์เมื่อการมองเห็นและภาวะต้อกระจกแย่มากแล้ว หรือที่เรียกทั่วไปว่า "ต้อสุก" ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางตา ยากต่อการผ่าตัด และอาจส่งผลเสียในระยะยาวตามมาได้
สังคมไทยในปัจจุบันมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น จากรายงานของระบบสถิติทางการทะเบียนแจงข้อมูลให้เห็นว่า ในปี 2022 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) คือ มีประชากรสูงวัยมากกว่าร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรในประเทศ และคาดการณ์ว่าราวปี 2030 ไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society: มีประชากรสูงวันมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรในประเทศ) การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนักและให้ความสนใจเพิ่มขึ้้น
โรคต้อกระจก (Cataract) คือภาวะเลนส์ตาขุ่นซึ่งเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงโปรตีนและสารประกอบในเลนส์ตา ทำให้ความใสของเลนส์เสียไปและส่งผลต่อให้แสงผ่านไปยังจอตาลดลง อย่างไรก็ตาม อาการของ 'ต้อ' ยังแยกย่อยเป็นหลากชนิด เช่น ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อลม
ผู้ป่วยควรเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการผิดปกติโดยเร็ว ซึ่งประกอบด้วยการตรวจวัดระดับการมองเห็น วัดค่าสายตา วัดความดันตา และขยายรูม่ายตาเพื่อประเมินลักษณะของต้อกระจกและจอประสาทตาโดยละเอียด และวินิจฉัยแยกโรคอื่นๆ ที่่ทำให้เกิดอาการตามัวได้เช่นกัน ซึ่งการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องนำไปสู่แนวทางในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับระยะของโรคและการพยากรณ์โรคได้ต่อไป
ข้อบ่งชี้ในการพิจารณาเข้ารับการผ่าตัด คือการมองเห็นแย่ลงจนรบกวนการประกอบกิจวัตรประจำวัน ต้อกระจกสุกหรือมีภาวะแทรกซ้อนจากต้อกระจก เช่น การอักเสบช่องหน้าลูกตา ความดันตาสูง เป็นต้น มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
วิธีการผ่าตัดดั้งเดิมที่ใช้ในการณีที่ต้อกระจกสุกและแข็งมาก ๆ และไม่สามารถสลายด้วยเครื่องได้ ขนาดแผลมีความยาวประมาณ 10 มิลลิเมตร เพื่อคลอดตัวเลนส์ตาที่สุกออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนจึงเย็บปิดแผล เนื่องจากขนาดแผลค่อนข้างกว้าง จึงใช้เวลาในการผ่าตัดและระยะเวลาในการพักฟื้นนาน
การผ่าตัดอีกแบบคือการผ่าตัดสลายต้อกระจกด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ขนาดแผลประมาณ 3 มิลลิเมตร ใช้เวลาในการผ่าตัด 30-60 นาที การผ่าตัดด้วยวิธีนี้สามารถแก้ภาวะสายตายาว สั้น และเอียงได้ โดยใช้เลนส์พับที่มีคุณสมบัติดังกล่าว และผู้ป่วยสามารถพักฟื้นที่บ้านได้หลังการผ่าตัด แผลหายเร็ว ระยะเวลาการพักฟื้นน้อย แต่สามารถรักษาได้เมื่อต้อกระจกอยู่ในระยะที่ยังไม่สุกเท่านั้น
หากมีการมองเห็นเปลี่ยนแปลงและกังวลเรื่องต้อกระจก ควรเข้ารับการตรวจกับจักษุแพทย์โดยเร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยให้การมองเห็นแย่ลงเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง ยากต่อการรักษา และส่งผลกระทบในระยะยาวได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://eyewiki.org/Cataract
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แผนกจักษุ ชั้น 1 โรงพยาบาลรามคำแหง 2
Email: information@ram2-hosp.com
Line Official: @ram2
โทร: 02-032-3888
บทความโดย
พญ.มัณฑนา ศุภวงศ์วรรธนะ
แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา
โรงพยาบาลรามคำแหง 2
แพ็กเกจที่แนะนำ